เมนู

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเรียกพระเถระนั้นว่า เอรกะ เป็นครั้งแรก
ก่อน แต่ภายหลัง พระเถระจึงเรียกตนเองโดยนามว่า เอรกะ.
บทว่า น สุขา กามา ความว่า ขึ้นชื่อว่ากามนี้ ไม่เป็นความสุข
เลย สำหรับบุคคลผู้รู้อยู่ แต่สำหรับคนไม่รู้ ย่อมปรากฏโดยเป็นสุข. สมดัง
ที่ท่านกล่าวไว้ มีอาทิว่า ผู้ใดเห็นความสุข โดยเป็นทุกข์ ผู้นั้นชื่อว่าได้เห็น
ทุกข์ โดยความเป็นลูกศร.
บทว่า โย กาเม กามยติ ทุกฺขํ โส กามยติ ความว่า สัตว์
ผู้ใด ใคร่กิเลสกาม และ วัตถุกาม ความใคร่นั้นของสัตว์ผู้นั้น ย่อมเป็น
ไปเพื่อความเร่าร้อนในปัจจุบัน ทั้งชื่อว่า เป็นทุกข์ในเวลาต่อไป เพราะเป็น
เหตุแห่งทุกข์ในอบาย และเหตุแห่งทุกข์ในวัฏฏะ. ก็วัตถุกาม ชื่อว่าเป็นที่
ตั้งแห่งทุกข์ ด้วยประการฉะนี้. สัตว์ผู้นั้น ท่านจึงเรียกว่า ใคร่วัตถุกาม
ที่มีทุกข์เป็นสภาพ มีทุกข์เป็นนิมิต และเป็นที่ตั้งแห่งความทุกข์. ทุกข์นอกนี้
ท่านกล่าวไว้ เพื่อให้รู้เนื้อความนั้นแหละ โดยตรงข้าม เพราะฉะนั้น ใจ
ความของทุกข์นั้น พึงทราบโดยปริยายดังที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้ว.
จบอรรถกถาเอรกเถรคาถา

4. เมตตชิเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระเมตตชิเถระ


[231] ได้ยินว่า พระเมตตชิเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
ขอนอบน้อม แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นศากย-
บุตร ผู้มีพระสิริพระองค์นั้น พระองค์ผู้ถึงแล้วซึ่ง
ธรรมอันสูงสุด ได้ทรงแสดงอัครธรรมนี้ ด้วยดี.